มาเจาะลึกเรื่องของออฟฟิศซินโดรมให้มากขึ้นกัน

ออฟฟิศซินโดรม อาการที่หลายๆคน มักมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวแต่สำหรับชาวออฟฟิศแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวสุดๆ และเกิดขึ้นได้กับทุกๆคนในวัยทำงาน บทความนี้จะพาคุณมารู้จักอาการออฟฟิศซินโดรม รวมถึงสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาออฟฟิศซินโดรม มีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ

 

สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรม เป็นอาการที่พบได้บ่อยในบริบทการทำงานในออฟฟิศ ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากการนั่งทำงานนานๆ โดยไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างเพียงพอ ส่งผลให้กล้ามเนื้อของคอ และหลังอ่อนตัว รวมถึงเส้นประสาทที่อยู่ใกล้ๆ กล้ามเนื้อนั้น ถูกกีดขวางและตึงตัว เกิดอาการเจ็บปวด ไม่สบาย หรือมีอาการชา ปวดแขน และไหล่ด้วย

 

นอกจากนั้น ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรม เช่น โรคเกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต โรคข้อเข่าเสื่อม หรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บเข่าหรือข้อเท้าที่มีอายุมากขึ้น ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวช้าลง และภาวะเสี่ยงที่จะเกิดออฟฟิศซินโดรมได้สูงขึ้น ดังนั้นการป้องกันออฟฟิศซินโดรมจึงต้องให้ความสำคัญกับการพักผ่อนทำกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ และการทำกิจกรรมกายภาพที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและระบบข้อเข่า ข้อเท้าให้แข็งแรงและดีในการทำงานในออฟฟิศอีกด้วย

 

อาการออฟฟิศซินโดรม
อาการของออฟฟิศซินโดรมสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1.อาการปวดคอบ่าไหล่
2.อาการปวดหลัง
3.อาการปวดเท้าและข้อต่างๆ
การป้องกันออฟฟิศซินโดรมสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน เช่น ต้องมีการพักผ่อนและเคลื่อนไหวตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ต้องเปลี่ยนท่าทางการนั่งทำงาน หรือใช้อุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนท่าทางการทำงานได้ นอกจากนี้ยังมีการออกกำลังกายที่เหมาะสมและการปฏิบัติสุขภาพที่ดี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดออฟฟิศซินโดรมอีกด้วย

 

การรักษาออฟฟิศซินโดรม
การรักษาออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) จะเน้นที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานและการดูแลสุขภาพที่ดี เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการนี้เกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคต

 

1.การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน
ใช้เก้าอี้ที่มีความสูงเหมาะสมและสามารถปรับได้ตามต้องการ เพื่อให้มีการสลับท่าทางนั่ง และเปลี่ยนท่าทางเป็นระยะๆ
รักษาระยะห่างระหว่างตำแหน่งการทำงานและจอภาพห่างออกไปเพื่อลดการใช้สายคาและเกร็งคอ
ใช้อุปกรณ์ช่วยปรับเปลี่ยนท่าทางการทำงาน เช่น ตั้งโต๊ะเป็นแนวตั้ง-นอน เพื่อให้สามารถทำงานได้ในท่าทางที่เหมาะสม
2.การออกกำลังกายและการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย
การออกกำลังกายเบาๆ ในบ้านหรือที่ออกกำลังกายสาธารณะ เช่น การเดินเร็ว ย่อยตัว เป็นต้น
การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายด้วยการยกแขน-ยกขา หมุนไหล่ และยืดกล้ามเนื้อเชิงกราน
3.การดูแลสุขภาพและการพักผ่อน
การนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพ เพื่อให้ร่างกายพักผ่อนและฟื้นฟู
การดูแลสุขภาพด้วยการกินอาหารที่เหมาะสมและมีสารอาหารที่จำเป็นต่อ



หากทำเบื้องต้นทั้งหมดแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการทำกายภาพบำบัด หากผู้อ่านท่านใดมีความประสงค์อยากเข้ารับการรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม สามารถปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ H8 Clinic คลินิกเฉพาะทางด้านออฟฟิศซินโดรมที่พร้อมจะช่วยคุณให้หายขาดจากอาการออฟฟิศซินโดรม ด้วยนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัย ดูแลอย่างใส่ใจ ติดตามทุกเคสหลังการรักษาค่ะ

Thai